วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ต้าน"โรคหวัด"..ด้วยอาหาร 7 อย่าง


    ต้าน"โรคหวัด"..ด้วยอาหาร 7 อย่าง   
 
 
 
 
 
บ้านเราเป็นภูมิแพ้กันทั้งบ้าน
แต่ตอนนี้คนที่น่าฉ๋งฉาน ที่ซู้ด ก็ต้องเป็นผักหวาน
เพราะเล็กอยู่ ยังจัดการตัวเองไม่ค่อยได้

ก็ต้องเป็นแม่ที่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ทั้งคอยให้ยากิน ยาพ่น ซึงแม่ก็มักจะลืม
ซึ่งมันไม่ดีเลย เพราะพอรู้ตัวอีกที หวานก็มักจะออกอาการเยอะ
 
แม่พบ บทความนี้ใน เวบ http://www.teenee.com/
เห็นว่ามีประโยชน์มาก จึงขอ copy มาไว้ที่บ้านเราจ๊ะ
 
อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูเหมือนว่าคนใกล้ตัวจะเป็นหวัดกันมากขึ้นมาป้องกันหวัดด้วยวิธีง่ายๆ กับอาหาร 7 อย่างที่ช่วยต้านหวัด
1.โยเกิร์ต ไม่ว่าจะกินเปล่า ๆ หรือกินคู่กับซีเรียล และผลไม้
โยเกิร์ตก็เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตนับล้าน ที่ปกป้องร่างกายจาก
แบคทีเรียอันตรายและเชื้อโรคต่าง ๆ ที่จะเข้ามาทำร้ายเรา
พวกมันเหมือนกองทหารที่อยู่ในลำไส้ คอยขับไล่
สิ่งแปลกปลอมที่คิดร้าย โดยกองทหารพวกนี้ มีชื่อคุ้นหูว่า
'โปรไบโอติกส์' ทั้งแล็กโตบาซิลลัส และไบไฟโดแบคทีเรียม
ซึ่งจะไปเพิ่มเม็ดเลือดขาว ในร่างกายและป้องกันเชื้อโรคได้นั่นแหละ
2.ชา เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ยอดนิยมรองลงมาจากน้ำเปล่า
ชาทั่วไปจะมีสารโพลีฟีนอลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยฆ่าแบคทีเรีย ไวรัส และยับยั้งอาการอักเสบ นอกจากนี้
ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่าประโยชน์ส่วนหนึ่งของชาอยู่ที่ความอุ่น
สำหรับคนที่เป็นหวัดแล้ว เครื่องดื่มหรือน้ำซุปอุ่น ๆ จะให้
ความรู้สึกไหลลื่น และการสูดเอาไออุ่น ๆ จากชาเข้าไป
ก็จะช่วยให้โล่งจมูกได้มาก อย่างไรก็ดี การเติมนมลงไปในชา
อาจทำให้ร่างกายของเราดูดซึมสารคาเตชินได้ไม่มากเท่าที่ควร
ดังนั้น ถ้าอยากต้านหวัดจริง ๆ ก็ดื่มชาอุ่น ๆ ธรรมดาดีกว่านะ 
3.หอยนางรม อย่าเอ็ดไป แต่เขาบอกว่า หอยนางรมคือยาปลุกพลังชั้นดีที่สุด
ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เพราะสังกะสีที่มีอยู่ในหอย จะช่วยปลุก
ฮอร์โมนเทสทอสเทอโรนให้แก่ทั้งชายและหญิง หุหุ แต่นั่น
ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ประเด็นอยู่ที่ว่า สังกะสีช่วยปกป้องเราจากหวัด
และไข้หวัดใหญ่ได้ต่างหาก มันจะทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้ดีขึ้น
เพื่อตักจับและทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย

แต่ทั้งนี้ FDA เขาก็เตือนมาว่าอย่ากินสังกะสีเกินวันละ 11 มิลลิกรัม
ไม่งั้นมันจะเป็นพิษ โดยหอยนางรมตัวปานกลางหนึ่งตัวจะมีสังกะสี
มากถึง 12.7 มิลลิกรัม มากกว่าปริมาณที่สาว ๆ ต้องการในหนึ่งวันอีกนะ
ดังนั้น 1 วัน 1 ตัว ก็พอแล้วจ้า 
4.ขมิ้น ใครนึกไม่ออกว่าจะกินขมิ้นอย่างไรก็ควรจะลองกินแกงกะหรี่
สีเหลืองดู และสาเหตุที่ขมิ้นมีสีเหลืองออกทองก็เป็น เพราะ
สารเคอร์คิวมินซึ่งเป็นโพลิฟีนอลตัวหนึ่งนี่เอง โดยการศึกษา
ในปี 2008 จาก Biochemical and Biophysical
Research Communications ชี้ว่าสารเคอร์คิวมินนี้ช่วย
ไม่ให้เกิดการอักเสบในร่างกายได้ สำหรับผงขมิ้นแล้ว
ถ้าใช้ภายนอกจะมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้ออีกด้วย...วิเศษสุด ๆ 
5.พริกหวานสีแดง ถ้าเทียบกันแบบนักมวยกิโลฯ ต่อกิโลฯ พริกหวานสีแดง
มีวิตามินซีมากกว่าผักและผลไม้อื่น ๆ ถึงสองเท่า วิตามินซี
เป็นที่รู้จักดีในฐานะวิตามิน เพื่อดูแลผิวพรรณ ดังนั้น เมื่อ
ผิวพรรณแข็งแรง ก็เท่ากับว่าปราการด่านแรกของร่างกาย
แข็งแรงไปด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาว
และการสร้างแอนตี้บอดี้ด้วย 
6.ฟักทอง ท่องกันมาตั้งแต่เด็กว่าฟักทองมีวิตามินเอ และวิตามินเอนี่ล่ะ
ที่ช่วยให้เซลล์ แต่ละเซลล์ของเราสื่อสารกันได้อย่างปกติ
(จึงช่วยป้องกันมะเร็งด้วย) การกินวิตามินเอเป็นประจำจะทำให้
ทางเดินหายใจมีสุขภาพดีอยู่เสมอ ซึ่งเหมาะกับหน้าหวัดเป็นอย่างยิ่ง
แต่จุ๊ ๆ อย่าเพิ่งดีใจไป การกินวิตามินเอมากเกินไปไม่ดีเลยนะ
มันอาจไปสะสมอยู่ในเซลล์ไขมัน และเมื่อมีมาก ๆ ก็เป็นอันตรายได้
ถ้าใครคิดอยากกินวิตามินเอจากแคปซูล ก็น่าจะลองกินฟักทองดีกว่านะ
ปลอดภัยกว่ากันเยอะ 
7.บร็อกโคลี่ สีเขียวเข้มสวยกับใบพุ่มใหญ่ ๆ คอยบอกใบ้ว่าบร็อกลี่ดีต่อ
สุขภาพของเรามาก ๆ บร็อกโคลี่เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลผักกาด
ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มากมาย และเป็นแหล่งของ
วิตามินเอ ซี อี นอกจากนี้ ยังมีสารกลูโคไซโนเลต สังกะสี
และซีลีเนียม ช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานจากเชื้อโรคต่าง ๆ
ขอแค่เพียง บร็อกโคลี่วันละหนึ่งถ้วย เราก็ได้วิตามินซี เท่าที่ต้องการ
ในแต่ละวัน ป้องกันเชื้อโรค และอาการอักเสบภายในร่างกายได้

 

หน้าหนาวนี้ชุดนอนของ ผักหวาน ที่จะขาดไม่ได้
ต้องมี เสื้อกั๊กไหมพรม หมวกอุ่นๆ ถุงเท้า และ
น้ำมันยูคาลิปตัส ตรานกแก้ว เพื่อให้การหายใจ
ของผักหวาน ในตอนดึก ๆ จนถึง ค่อนรุ่ง โล่งงงงง





วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

พ่อกับจักรยานและจอร์ช


    พ่อกับจักรยานและจอร์ช    



ระยะหลังมานี้ พ่อกำลังฮิต และ ติด
การปั่นจักรยาน ม๊ากกก ออกปั่นทุกวันๆละ หลายสิบโล
กับก๊วน ในหมู่บ้าน ก็ก๊วน กวน มึน เฮีย นั่นแหละ
ก็ยังดี ที่ไม่ดริ๊ง อย่างเดียว ยังมีออกกำลังกายมั่ง



ปั่นไปปั่นมา ก็ชักจะอยากลองของ
พ่อ และ ก๊วน จึงได้ไปร่วมงาน
MTB สู่ ดอยตุง ครั้งที่ 12 เมื่อกลางเดือนตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา
พ่อบอกว่า พ่อไปกับก๊วนในหมู่บ้าน
แต่ก็ไปเจอก๊วนของ ที่ทำงาน มีทั้ง
ผจฯ อู๊ด ผจฯ ป๋อง อิลุงอิ๋ว และ มีทีมจากเชียงใหม่มาด้วย

แม่ก็เลยไปแอบจิ๊กรูปจากในเวบ ที่ ผจ.ป๋องเอาไปลง
เอามาแปะไว้ในไดฯ เรา เป็นรูปของ เรา อิอิ

เห็นรูปอิป้อ ตอนใส่หมวกแล้ว ทำให้นึกถึง
วันเก่า ๆ สมัย อิป้อ หนุ่ม ๆ หล่อใช่เล่นนะนั่น อิอิ

Photobucket



Photobucket



Photobucket


 Photobucket


และ พ่อกับจอร์ช ในวันว่าง สบาย ๆ ที่โรงรถหลังบ้าน

Photobucket

 Photobucket


วันนี้ไม่มีรูป สองผัก เลย ...